วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

อาหารจังหวัดนครสวรรค์

อาหารจังหวัดนครสวรรค์


การกินอยู่

นครสวรรค์ ได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านในจังหวัดได้คิดค้นกรรมวิธีประกอบอาหาร การถนอมอาหารไว้มากมายหลายชนิด แต่ละชนิดล้วนแต่แสดงถึงภูมิปัญญาชาวบ้าน ในการทำอาหาร และการถนอมอาหารเพื่อให้เก็บไว้รับประทานได้นานๆ

         อาหารที่ขึ้นชื่อของจังหวัดนครสวรรค์ อันแสดงถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวนครสวรรค์ ทั้งภูมิปัญญาของคนรุ่นเก่า และคนรุ่นใหม่ ได้แก่ ขนมเปี๊ยะโมจิ 
ปลาเกลือ(ปลาเค็ม) กระยาสารท ลูกชิ้นปลากราย กุนเชียง เป็นต้น

ขนมเปี๊ยะโมจิ

          การทำขนมเปี๊ยะโมจิ ของชาวนครสวรรค์เป็นภูมิปัญญาไทยของคนรุ่นใหม่ที่พยายามดัดแปลงขนมของชาวญี่ปุ่นให้มีรสชาติเป็นที่ถูกใจคนไทย ถ้าเิดินทางจากกรุงเทพฯ ขึ้นสู่ภาคเหนือเมื่อมาสี่แยกเชิงสะพานเดชาติวงศ์ แล้วเลี้ยวขวาเข้าเมืองนครสวรรค์ จะเห็นร้านขนมเปี๊ยะโมจิที่มีชื่อเสียงของนครสวรรค์ ตั้งอยู่สองฟากถนนซึ่งมีอยู่หลายร้าน อาทิ ร้านโมจิจันทร์สุวรรณ ร้านโมจิวัฒนพร ร้านโมจิเอ็ม เอ็ม

ปลาเกลือ (ปลาเค็ม)          นครสวรรค์ มีแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือ บึงบอระเพ็ด ดังนั้น การทำปลาเค็ม
จึงจัดได้ว่าเป็นวิธีการถนอมอาหารที่สำคัญวิธีหนึ่งของชาวนครสวรรค์
          ที่อำเภอชุมแสง หมู่บ้านท่าดินแดง ตำบลเกรียงไกร อำเภอเมืองนครสวรรค์ ชาวบ้านนอกจากจะมีอาชีพ
เพาะเลี้ยงปลาในกระชัง เช่น ปลาบู่ ปลากด ปลาชะโด แล้ว ยังมีอาชีพในการทำปลาเค็มไปพร้อมกันด้วย ชาวนครสวรรค์นิยมเรียกปลาเค็มว่า "ปลาเกลือ"

ข้าวเม่าทอด          การทำข้าวเม่าทอด นิยมทำกันในอำเภอเมืองนครสวรรค์และอำเภอโกรกพระ ในเทศกาลออกพรรษา ในงานปิดทองไหว้พระ และงานแข่งเรือตามวัดต่างๆ เพราะเป็นช่วงที่มีข้าวเม่าออกมาใหม่ๆ ซึ่งมีกลิ่นหอม และเป็นฤดูที่
กล้วยไข่ให้ผลผลิตพอดี

ข้าวโปง          แต่เดิมเป็นขนมที่ชาวนานิยมทำในประเพณีรับขวัญข้าว ช่วงฤดูเก็บเกี่ยว เมื่อชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวแล้วก่อนจะนำข้าวขึ้นยุ้งฉาง จะทำพิธีรับขวัญข้าวโดยการโขลกข้าวโปง คือใช้ข้าวเหนียวใหม่ที่เก็บเกี่ยวนำไปนึ่ง แล้วโขลกจนเหนียวนำไปปั้นเป็นรูปอุปกรณ์การทำนา นำใส่กระบุงไปที่ทุ่งนา จุดธูปเทียนบูชา และเชิญแม่โพสพขึ้นยุ้งฉาง เมื่อเสร็จพิธีก็นำกระบุงนั้นกลับไปไว้ที่ยุ้งข้าว เพื่อความเป็นสิริมงคล ส่วนข้าวโปงจะนำมารับประทานในครอบครัว

กระยาสารท          กระยาสารทเป็นขนมที่นิยมใช้รับประทานกับกล้วยไข่ ซึ่งช่วงเทศกาลสารทไทยจะเป็นช่วงที่กล้วยไข่ให้
้ผลผลิตมาก แต่เดิมนิยมกวนกระยาสารทเพื่อนำไปทำบุญในเทศกาลสารทไทย และรับประทานกันในครัวเรือนเท่านั้น แต่ปัจจุบันการทำกระยาสารทสามารถทำจำหน่ายกันได้ทุกฤดูกาล เพราะสามารถเก็บไว้ได้นาน และนักท่องเที่ยวสามารถซื้อหาเป็นของฝากญาติมิตรได้เป็นอย่างดี







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น