วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

งานภาพเคลื่อนไหว


ภาพรถวิ่งบนถนน


งาน เทคนิคการถ่ายภาพ 30 ภาพ

 ดอกบานชื่น
































การท่องเที่ยวจังหวัดนครสวรรค์

การท่องเที่ยวจังหวัดนครสวรรค์


ข้อมูลท่องเที่ยว และสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดนครสวรรค์

     นครสวรรค์ มีชื่อเรียกเป็นที่รู้จักแพร่หลายมาแต่เดิมว่า ปากน้ำโพ ตั้งอยู่ระหว่างภาคกลางและภาคเหนือจึงเป็น “ประตูสู่ภาคเหนือ” และเป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่สำคัญของภาคเหนือตอนล่างสภาพภูมิประเทศของจังหวัดนครสวรรค์เป็นในดินแดนของลุ่มน้ำ เป็นต้นกำเนิดของแม่เจ้าสายหลักของภาคกลาง เป็นจุดบรรจบของแม่น้ำสี่สายจากภาคเหนือ ได้แก่ แม่น้ำปิง แม่น้ำวัง แม่น้ำยมและแม่น้ำน่านด้วยเหตุนี้ จังหวัดนครสวรรค์จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เมืองสี่แคว จากแควใหญ่ทั้ง 4 สายนั้นเองที่กลายเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำสายสำคัญของประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของบึงน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือ บึงบอระเพ็ด ซึ่งอุดมไปด้วยพรรณพืช ฝูงนกนานาชนิด และยังเป็นที่อยู่อาศัยของปลาอีกนับร้อยชนิด เนื่องจากมีอาหารอุดมสมบูรณ์ มีพื้นที่ประมาณ 132,777 ไร่
นครสวรรค์เป็นเมืองโบราณซึ่งสันนิษฐานว่าตั้งขึ้นในสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี โดยมีปรากฏชื่อในศิลาจารึกเรียกว่า เมืองพระบาง เป็นเมืองหน้าด่านสำคัญในการทำศึกสงครามมาทุกสมัย ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย กรุงธนบุรี จนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ ตัวเมืองดั้งเดิมตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาขาด(เขาฤาษี) จรดวัดหัวเมือง(วัดนครสวรรค์) ยังมีเชิงเทินดินเป็นแนวปรากฏอยู่ เมืองพระบาง ต่อมาได้เป็น เมืองชอนตะวัน เพราะตัวเมืองตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา และหันหน้าเมืองไปทางแม่น้ำซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกทำให้แสงอาทิตย์ส่องเข้าหน้าเมืองตลอดเวลา แต่ภายหลังได้เปลี่ยนเป็น เมืองนครสวรรค์ เป็นศุภนิมิตอันดี
นครสวรรค์ตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสมแก่การค้าขาย เป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางน้ำ เป็นจุดรวมของสายน้ำสำคัญที่ไหลมาจากทางเหนือ แล้วไหลรวมกันเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา ไปจนออกอ่าวไทย เส้นทางน้ำสายนี้จึงเป็นเส้นทางลำเลียงของสินค้ามาตั้งแต่อดีต เป็นท่าข้าวใหญ่ที่สุดของไทย เป็นแหล่งธุรกิจ ที่มีคนจีนและคนไทยเชื้อสายจีนตั้งหลักแหล่งทำมาค้าขายกันมาหลายชั่วคน เทศกาลตรุษจีน จึงเป็นงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่ชองชาวปากน้ำโพ มีการแห่เจ้าไปทั่วเมือง มีการเชิดสิงโต แห่มังกร เป็นงานใหญ่ที่รู้จักกันทั้งประเทศ

วัฒนธรรมประเพณี

วัฒนธรรมประเพณี


ประเพณี/วัฒนธรรม/ พิธีกรรม
          วัฒนธรรมประเพณีของชาวจังหวัดนครสวรรค์ เป็นมรดกเก่าแก่ที่สืบทอดมาเป็นเวลานาน มีหลักฐานทาง
  ประวัติศาสตร์และโบราณคดีปรากฏชัดเจน วิถีชีวิตของชาวจังหวัดนครสวรรค์ ได้มีวิวัฒนาการต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน
  และเนื่องจากประชากรจังหวัดนครสวรรค์มีหลายเชื้อชาติ ประเพณีต่างๆ ที่สืบทอด จึงมีแบบอย่างตามเชื้อชาตินั้นๆ
  และนำมาผสมกลมกลืนกันเป็นประเพณีและวัฒนธรรมของจังหวัดที่น่าสนใจ



ประเพณีตรุษจีน



ตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 1 ตามปฏิทินจีน เป็นประเพณีเกี่ยวกับ   การไหว้เจ้าบรรพบุรุษของคนไทยเชื้อสายจีนที่อยู่ในเมืองนครสวรรค์  
  มีกิจการการแสดงหลายรายการ เช่น การแห่เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ปากน้ำโพ   แห่มังกรทอง เิชิดสิงโต

       เทศกาลตรุษจีนที่จังหวัดนครสวรรค์ นอกจากจะมีความสำคัญต่อ
  ชาวจีนแล้ว ยังได้รับการถือปฏิบัติจากชาวจีนเป็นพิเศษกว่าที่อื่นๆ 
  นอกจากจะมีการเซ่นไหว้เจ้าตามเทศกาลแล้ว ยังถือเป็นประเพณีที่
  ต้องเชิญเจ้าแห่รอบตลาดเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย




ประเพณีการแข่งเรือยาว


ประเพณีแข่งเรือเป็นประเพณีที่สำคัญของจังหวัดนครสวรรค์
  มีมาตั้งแต่อดีต เริ่มโดยชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำ เป็นฝีพาย จัด
  แข่งขันในช่วงน้ำหลาก หลังออกพรรษาเดือน 11 คือ ช่วงเดือน
  ตุลาคม - พฤศจิกายน ของทุกปี


         การเแข่งเรือนอกจากจะได้รับความสนุกสนานแล้ว ยังทำให้เกิด
  ความรับผิดชอบ รักใคร่กลมเกลียว สามัคคีกันระหว่างชุมชน หรือ
  ถิ่นอื่นๆ ด้วย


ประเพณีลอยกระทงสาย

เมื่อใกล้ถึงวันลอยกระทง ชุมชนบ้านหน้าผา อำเภอเมืองนครสวรรค์
  จะนำกะลาที่เก็บสะสมไว้ตลอดทั้งปีมาทำความสะอาดและตกแต่งด้วย
  กระดาษสี ทำเทียนวางไว้กลางกะลา ไม่ใส่ดอกไม้ ธูปเทียนเหมือน
  กระทงทั่วไป

       เมื่อถึงวันลอยกระทง ชาวบ้านจะนำกระทงกะลาที่เตรียมไว้นับพันใบ   มาจุดเทียนและปล่อยลงในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีจุดเริ่มตั้งแต่
  หน้าศาลเจ้าแม่หน้าผา อำเภอเมืองนครสวรรค์


การรำกลองยาว
      การรำกลองยาว เป็นศิลปะการแสดงพื้นบ้านของชาวอำเภอ
  พยุหะคีรี ด้วยท่ารำที่หลากหลาย สวยงามการต่อกลองขึ้นไป
  ร่ายรำและท่วงทำนองการตีกลองยาว และฆ้องที่สนุกสานเร้าใจ   ทำให้การรำกลองยาวของจังหวัดนครสวรรค์มีชื่อเสียงโด่งดัง
  เป็นที่รู้จักทั่วไป


อาหารจังหวัดนครสวรรค์

อาหารจังหวัดนครสวรรค์


การกินอยู่

นครสวรรค์ ได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านในจังหวัดได้คิดค้นกรรมวิธีประกอบอาหาร การถนอมอาหารไว้มากมายหลายชนิด แต่ละชนิดล้วนแต่แสดงถึงภูมิปัญญาชาวบ้าน ในการทำอาหาร และการถนอมอาหารเพื่อให้เก็บไว้รับประทานได้นานๆ

         อาหารที่ขึ้นชื่อของจังหวัดนครสวรรค์ อันแสดงถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวนครสวรรค์ ทั้งภูมิปัญญาของคนรุ่นเก่า และคนรุ่นใหม่ ได้แก่ ขนมเปี๊ยะโมจิ 
ปลาเกลือ(ปลาเค็ม) กระยาสารท ลูกชิ้นปลากราย กุนเชียง เป็นต้น

ขนมเปี๊ยะโมจิ

          การทำขนมเปี๊ยะโมจิ ของชาวนครสวรรค์เป็นภูมิปัญญาไทยของคนรุ่นใหม่ที่พยายามดัดแปลงขนมของชาวญี่ปุ่นให้มีรสชาติเป็นที่ถูกใจคนไทย ถ้าเิดินทางจากกรุงเทพฯ ขึ้นสู่ภาคเหนือเมื่อมาสี่แยกเชิงสะพานเดชาติวงศ์ แล้วเลี้ยวขวาเข้าเมืองนครสวรรค์ จะเห็นร้านขนมเปี๊ยะโมจิที่มีชื่อเสียงของนครสวรรค์ ตั้งอยู่สองฟากถนนซึ่งมีอยู่หลายร้าน อาทิ ร้านโมจิจันทร์สุวรรณ ร้านโมจิวัฒนพร ร้านโมจิเอ็ม เอ็ม

ปลาเกลือ (ปลาเค็ม)          นครสวรรค์ มีแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือ บึงบอระเพ็ด ดังนั้น การทำปลาเค็ม
จึงจัดได้ว่าเป็นวิธีการถนอมอาหารที่สำคัญวิธีหนึ่งของชาวนครสวรรค์
          ที่อำเภอชุมแสง หมู่บ้านท่าดินแดง ตำบลเกรียงไกร อำเภอเมืองนครสวรรค์ ชาวบ้านนอกจากจะมีอาชีพ
เพาะเลี้ยงปลาในกระชัง เช่น ปลาบู่ ปลากด ปลาชะโด แล้ว ยังมีอาชีพในการทำปลาเค็มไปพร้อมกันด้วย ชาวนครสวรรค์นิยมเรียกปลาเค็มว่า "ปลาเกลือ"

ข้าวเม่าทอด          การทำข้าวเม่าทอด นิยมทำกันในอำเภอเมืองนครสวรรค์และอำเภอโกรกพระ ในเทศกาลออกพรรษา ในงานปิดทองไหว้พระ และงานแข่งเรือตามวัดต่างๆ เพราะเป็นช่วงที่มีข้าวเม่าออกมาใหม่ๆ ซึ่งมีกลิ่นหอม และเป็นฤดูที่
กล้วยไข่ให้ผลผลิตพอดี

ข้าวโปง          แต่เดิมเป็นขนมที่ชาวนานิยมทำในประเพณีรับขวัญข้าว ช่วงฤดูเก็บเกี่ยว เมื่อชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวแล้วก่อนจะนำข้าวขึ้นยุ้งฉาง จะทำพิธีรับขวัญข้าวโดยการโขลกข้าวโปง คือใช้ข้าวเหนียวใหม่ที่เก็บเกี่ยวนำไปนึ่ง แล้วโขลกจนเหนียวนำไปปั้นเป็นรูปอุปกรณ์การทำนา นำใส่กระบุงไปที่ทุ่งนา จุดธูปเทียนบูชา และเชิญแม่โพสพขึ้นยุ้งฉาง เมื่อเสร็จพิธีก็นำกระบุงนั้นกลับไปไว้ที่ยุ้งข้าว เพื่อความเป็นสิริมงคล ส่วนข้าวโปงจะนำมารับประทานในครอบครัว

กระยาสารท          กระยาสารทเป็นขนมที่นิยมใช้รับประทานกับกล้วยไข่ ซึ่งช่วงเทศกาลสารทไทยจะเป็นช่วงที่กล้วยไข่ให้
้ผลผลิตมาก แต่เดิมนิยมกวนกระยาสารทเพื่อนำไปทำบุญในเทศกาลสารทไทย และรับประทานกันในครัวเรือนเท่านั้น แต่ปัจจุบันการทำกระยาสารทสามารถทำจำหน่ายกันได้ทุกฤดูกาล เพราะสามารถเก็บไว้ได้นาน และนักท่องเที่ยวสามารถซื้อหาเป็นของฝากญาติมิตรได้เป็นอย่างดี







เศรษฐกิจ

เศรษฐกิจ



พืชเศรษฐกิจหลัก

          
พืชเศรษฐกิจหลักของจังหวัดนครสวรรค์ คือ ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วลิสง อ้อย ฝ้าย งา และมันสำปะหลัง โดยเป็น
 แหล่งปลูกข้าวที่ใหญ่ที่สุดของภาคเหนือ เป็นแหล่งปลูกข้าวโพดที่ใหญ่เป็นที่สองของภาคเหนือ รองจากจังหวัดเพชรบูรณ์ และเป็นแหล่ง
 ปลูกอ้อยมากในภาคเหนือ รองจากจังหวัดกำแพงเพชร


การประมง

          
แหล่งประมงน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุด คือ บึงบอระเพ็ด มีเนื้อที่ประมาณ 132,737 ไร่ และยังมีแม่น้ำสองสายที่สำคัญ คือ แม่น้ำปิง (เป็น
 พื้นที่ที่ทำการประมงน้ำจืด ประมาณ 209,867 ไร่) และแม่น้ำน่าน (แม่น้ำน่านรวมกับแม่น้ำยม) ไหลมารวมที่บริเวณปากน้ำโพ ซึ่งเป็น
 จุดเริ่มต้นของแม่น้ำเจ้าพระยา
          การประกอบอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในจังหวัดนครสวรรค์ เกิดจากสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม และมีแนวโน้มที่จะเลี้ยงเพิ่มขึ้น



การอุตสาหกรรม

         
จังหวัดนครสวรรค์ มีจำนวนโรงงานอุตสาหกรรมทั้งหมด 1,293 โรงงาน ลักษณะของอุตสาหกรรมที่มีอยู่ ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมที่
 สอดคล้องกับอาชีพหลักของจังหวัด อุตสาหกรรมที่มีมากที่สุด คือ โรงสีข้าว จำนวน 364 โรง จากจำนวนโรงงานทั้งหมด คิดเป็นร้อยละ
 28.16 อุตสาหกรรมอื่นๆ ที่รองจากโรงสีข้าว คือ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร โดยเฉพาะการซ่อมเครื่องมือ อุปกรณ์การเกษตร

ข้อมูลทั่วไป


ข้อมูลทั่วไปของจังหวัดนครสวรรค์





จังหวัดนครสวรรค์ 

เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ระหว่างตอนล่างของภาคเหนือและตอนบนของภาคกลาง มีพื้นที่ประมาณ 9,597 ตารางกิโลเมตร ซึ่งถือว่าเป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของภาคเหนือรองจากเชียงใหม่และพิษณุโลก นับเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์อีกจังหวัดหนึ่งของประเทศไทย มีพื้นที่ติดต่อกับหลายจังหวัด ได้แก่ ด้านเหนือ ติดต่อกับจังหวัดพิจิตรและกำแพงเพชร ทางตะวันออกติดกับจังหวัดเพชรบูรณ์และลพบุรี ด้านใต้ติดกับจังหวัดสิงห์บุรีชัยนาท และอุทัยธานี ส่วนด้านตะวันตกติดกับจังหวัดตาก

ประวัติศาสตร์

นักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่านครสวรรค์มีชื่อปรากฏมาตั้งแต่ก่อนสุโขทัยเป็นราชธานี มีชื่อในศิลาจารึกของสุโขทัย โดยเรียกว่า เมืองพระบาง เป็นเมืองหน้าด่านที่สำคญในการทำศึกสงคราม ตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา ธนบุรี กระทั่งถึงกรุงรัตนโกสินทร์ ภายหลังเรียกชื่อว่า เมืองชอนตะวัน และเปลี่ยนเป็น นครสวรรค์ ในที่สุด แต่ชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกกันว่า เมืองปากน้ำโพ ในประวัติศาสตร์มีหลักฐานทางโบราณคดีบ่งชี้ว่า นครสวรรค์ เคยเป็นเมืองเกษตรกรรมมาตั้งแต่ยุคต้นประวัติศาสตร์ เป็นศูนย์กลางของการคมนาคม เป็นที่ตั้งของกลุ่มชนชาวจีนที่มาทำมาค้าขายระหว่างประเทศ
เมืองพระบางเป็นเมืองโบราณในสมัยสุโขทัยคู่กับเมืองคนที โดยตัวเมืองพระบางอยู่ที่เมืองนครสวรรค์เก่า ส่วนเมืองคนทีสันนิษฐานว่าอยู่ที่บ้านโคน ริมฝั่งแม่น้ำปิง จังหวัดกำแพงเพชร จากข้อมูลในศิลาจารึกสมัยสุโขทัย เมืองพระบางถูกผนวกรวมกันเข้ากับอาณาจักรสุโขทัยในสมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์และตั้งตัวเป็นอิสระเมื่อสิ้นสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช และถูกผนวกรวมอีกครั้งในสมัยพระยาลิไท พระองค์ได้ประดิษฐานพระพุทธบาทพร้อมทั้งศิลาจารึกวัดเขากบไว้ที่เขากบ เมืองพระบาง ปัจจุบันอยู่ในจังหวัดนครสวรรค์ ในสมัยพระมหาธรรมราชาไสลือไทที่ประกาศให้สุโขทัยเป็นเอกราชได้รวมเมืองพระบางไว้ในอาณาเขตด้วย
เมื่ออำนาจของกรุงศรีอยุธยากล้าแข็งขึ้น เมืองพระบางจึงไปขึ้นกับกรุงศรีอยุธยาในที่สุด มีหลักฐานในตำนานมูลศาสนาว่าพระญาณคัมภีร์ขอที่สร้างวัดในอยุธยาเมื่อ พ.ศ. 1972 สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 ไม่อนุญาตจึงมาขอที่ที่เมืองพระบาง เจ้าเมืองพระบางไม่ยกที่ให้ อ้างว่าเป็นข้าขอบขัณฑสีมาของอยุธยา เมื่ออยุธยาไม่ให้ ทางเมืองพระบางก็ให้ไม่ได้